Final Fantasy VII Remake กันไปแล้ว แถมบางบุคคลก็บางทีก็อาจจะเล่นจนกระทั่งสิ้นสุดกันไปแล้วด้วย จัดว่าการจับเอาภาคนี้มารีเมคเป็นสิ่งที่แฟนคลับเกม RPG
จนถึงในขณะนี้หลายท่านก็คงจะได้สัมผัสกับเกมรีเมคสุดยิ่งใหญ่อย่าง Final Fantasy VII Remake กันไปแล้ว แถมบางบุคคลก็บางทีก็อาจจะเล่นจนกระทั่งสิ้นสุดกันไปแล้วด้วย จัดว่าการจับเอาภาคนี้มารีเมคเป็นสิ่งที่แฟนคลับเกม RPG ในอดีตคอยมาอย่างนานอย่างยิ่งจริงๆ ซึ่งจะต้องพูดว่า Square Enix เองก็ไม่ทำให้แฟนคลับได้ผิดหวังเลยกับการทิ้งระยะห่างมากมายว่า 23 ปี ตั้งแต่ภาคออริจินอลวางขาย จนได้กลับมาเล่นเวอร์ชั่นรีเมคอีกรอบในวันนี้
เรื่องงานภาพหรือกราฟิกของ Final Fantasy VII Remake เป็นอย่างแรกๆที่แฟนคลับได้มองเห็นกันตั้งแต่มีการปล่อยเนื้อปล่อยตัวอย่างออกมาให้ดู ซึ่งบอกเลยว่างาฟ้าพงามมากมายกกกกกก จากโมเดลโพลิก้อนแบบ 3D ตัวเหลี่ยมๆในสมัยก่อนสู่เทคโนโลยีที่ปรับปรุงขึ้นของเกมในช่วงปัจจุบันทำให้ได้กราฟิกของนักแสดงที่มองมีความสมจริงสมจังขึ้นแล้วก็ฉากสิ่งแวดล้อมต่างๆที่ยิ่งใหญ่ขึ้นพร้อมทั้งแสงสว่างเงา Effect ทั้งยังฉากธรรมดาไปจนกระทั่งฉากต่อสู้ ไหนจะ CG ที่งามรวมทั้งการตัดตอนระหว่างคัทซีนกับฉากเล่นที่ไหลลื่นแบบไม่มีรอยต่อ เท่านี้ก็ยิ่งทำให้เกมมองน่าเล่นมากมายๆแล้วล่ะนะครับ ส่วนตัวถูกใจบรรยากาศของเมือง Midgar รวมทั้งเขตต่างๆที่พองานกราฟิกยกฐานะขึ้นก็ทำให้ทุกสิ่งมองเหมือนจริง เบิกบานใจรวมทั้งเข้าถึงทุกที่เพิ่มมากขึ้น ทำให้พวกเรามองเห็นเอกลักษณ์ของแต่ละเขตกับการดำรงชีวิตโดยรวมเจริญขึ้น ส่วนตัวแล้วพบว่าข้อผิดพลาดบางสิ่งที่มองเห็นเกี่ยวกับงานกราฟิกก็บางทีอาจจะคือเรื่องของการโหลดเทกพบร์บางฉากที่โหลดไม่ทัน กับเทกพบร์ของประตูต่างๆที่ไม่มีการใส่เข้ามา ซึ่งบางทีก็อาจจะมองขัดหูขัดตาไปบ้างแม้กระนั้นก็ไม่คือปัญหาใหญ่มากมายนัก
เรื่องราวของเกมที่นับได้ว่าเป็นลักษณะเด่นและก็มีรายละเอียดเข้มข้นนั้นยังมีอยู่ครบจากในเวอร์ชั่นออริจินอล แม้กระนั้นมีความพิเศษเพิ่มเข้ามาเป็นกลุ่มปรับปรุงเลือกที่จะขยายและก็เพิ่มฉากต่างๆเข้ามาเพื่อทำให้เรื่องราวมีมิติรวมทั้งการเชื่อมต่อที่ดียิ่งขึ้น ถ้าหากผู้ใดกันที่เคยเล่นมาก่อนก็น่าจะรู้เรื่องรายละเอียดดีอยู่สุดแต่สำหรับคนใดกันแน่ที่ยังไม่เคยเล่น เรื่องราวโดยประมาณเป็นตัวเกมจะเริ่มที่ตัวสำคัญของพวกเรา Cloud Strife สมัยก่อนสมาชิกหน่วยทหารพิเศษ SOLDIER ออกมาทำภารกิจกับเพื่อนฝูงในกรุ๊ป Avalanche เพื่อประมือกับหน่วยงาน Shinra ผู้ซึ่งผลิตพลังงานด้วยการดูดเอา Mako หรือพลังชีวิตของโลกมาใช้ และก็ยังมีอีกหลายภารกิจและก็เรื่องราวอีกเยอะแยะให้พวกเราได้เผชิญ ซึ่งหากคนใดอยากทราบก็จำเป็นต้องไปเลนกันเอาเองครับผม ดังนี้ Final Fantasy VII Remake ที่พวกเราได้เล่นกันนี้จะเกิดเรื่องราวขั้นแรกสุดของเกมออริจินอลเพียงแค่นั้น ตอนต้นคนไม่ใช่น้อยเป็นห่วงว่าเกมจะสั้นไปในเมื่อกลุ่มปรับปรุงกล่าวว่าเรื่องราวจะมีเพียงแค่ใน Midgar แต่ว่าพอใช้ทดลองเล่นจริงแล้วพบว่าจำเป็นต้องใช้เวลากว่า 30-40 ชั่วโมงเลยสำหรับในการจะเล่นจนกระทั่งจบเกมได้ เนื่องจากว่าด้วยเหตุว่าเมืองมีความใหญ่ขึ้น มีภารกิจแบ่งย่อยให้ทำเสริมเพิ่มมากขึ้น และก็ฉากบางฉากที่สั้นๆในภาคต้นฉบับกลับถูกขยายรายละเอียดในภาคนี้ออกไปให้ยาวมากขึ้นกว่าเดิมนั่นเอง แต่ว่าอย่างไรก็ดีถ้าเกิดคนไหนไม่เลือกทำภารกิจเสริมก็สามารถที่จะเลือกทำแม้กระนั้นภารกิจหลักเพื่อเล่นให้จบเกมได้เช่นเดียวกัน
ทางด้านของ Gameplay ก็นับว่าเป็นข้อดีที่ดินกลุ่มปรับปรุงให้ความใส่ใจเป็นอย่างมาก และก็ถูกเปลี่ยนไปจากอันเก่าเช่นเดียวกัน ใน Final Fantasy VII Remake มีการเปลี่ยนแปลงจากระบบต่อสู้แบบ Turn-based เสมือนภาคเริ่มแรก มาคือระบบที่ย้ำแอคชั่นแบบ Real-time ทำให้การต่อสู้มีความรุนแรง เร็ว รวมทั้งมันขึ้นอย่างชัดเจน ใช้การกดจู่โจมปกติ คุ้มครองปกป้อง หรือเกลือกหลบ ไปพร้อมๆกับการรอคอยเกจ ATB เพื่อใช้เวทย์ ท่าพิเศษ หรือการใช้ไอเทม และก็ยังสามารถที่จะกดสลับแปรไปเล่นตัวละครอื่นในงานเลี้ยงได้ตลอดระยะเวลาด้วย มันก็เลยเป็นการผสมระหว่าง Action กับ RPG ของโบราณได้อย่างพอดีมากมายๆแม้กระนั้นอย่างไรก็ดีส่วนตัวพบว่าเรื่องของมุมกล้องถ่ายรูปในฉากต่อสู้นั้นบางทีก็อาจจะมองงงมากแล้วก็เชิญงงงันไปบ้างในตอนที่ศัตรูมีหลายตัวแล้วพวกเราปรารถนาเปลี่ยนเป้าหมายสำหรับในการจู่โจม ภายหลังการเล่นไปซักพักพบว่าตอนแรกๆพวกเรายังจู่โจมรัวๆไปแบบสนุกมือได้แต่ในระยะหลังจึงควรคิดแผนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆอีกทั้งการเก็บ ATB การจู่โจมข้อบกพร่องของศัตรู การใช้เวทย์หรือกระบวนการทำให้ศัตรูล้ม รวมทั้งการคอยปรับแต่งการต่อว่าดสถานะต่างๆของนักแสดง ฯลฯ